มะเร็งปากมดลูก ภัยเงียบที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม! แชร์วิธีตรวจ วัคซีนป้องกัน

มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในโรคร้ายที่หลายคนอาจไม่ค่อยได้ใส่ใจมากนัก บางคนอาจมองข้ามหรือไม่รู้จักวิธีการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ ทั้งทีความจริงแล้วมันเป็นภัยเงียบที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะมีอายุเท่าไรหรือมีสุขภาพดีแค่ไหนก็ตาม แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะเราสามารถป้องกันและตรวจพบได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ และการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก บทความนี้เราจะมาพูดถึงมะเร็งปากมดลูก พร้อมแนะนำวิธีลดความเสี่ยง และป้องกันไม่ให้โรคนี้เกิดขึ้น

สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก

สาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกคือการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแปปิโลมา (Human Papillomavirus HPV) โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง การติดเชื้อ HPV สามารถเกิดขึ้นได้จากการมีเพศสัมพันธ์ แม้ว่าร่างกายของผู้หญิงส่วนใหญ่จะสามารถกำจัดเชื้อนี้ได้เอง แต่ในบางกรณีเชื้ออาจคงอยู่และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่นำไปสู่มะเร็งปากมดลูก

ปัจจัยที่เพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งปากมดลูก ได้แก่

  • อายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี
  • มีคู่นอนหลายคน เพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ HPV
  • การสูบบุหรี่เป็นประจำ สารพิษในบุหรี่สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
  • ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์
  • ไม่เคยตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

อาการของมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกมักไม่มีอาการชัดเจนในช่วงระยะแรกๆ สำหรับอาการที่อาจพบ ได้แก่

  • เลือดออกทางช่องคลอดที่ไม่ใช่รอบประจำเดือน
  • เลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์
  • ตกขาวมากขึ้นหรือมีกลิ่นเหม็น
  • ปวดท้องน้อยหรืออุ้งเชิงกราน
  • เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

วิธีตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีความสำคัญมาก เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและรักษาโรค ปัจจุบันมีวิธีที่ใช้ตวรจกัน คือ 1. การตรวจหาเชื้อ HPV และ 2. การตรวจแป๊ปสเมียร์ แนะนำว่าควรใช้การตรวจร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกควรเริ่มต้นตรวจตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป และทำซ้ำทุก 3 – 5 ปี หรือตามคำแนะนำของแพทย์

1. การตรวจหาเชื้อ HPV (HPV DNA Test)

การตรวจหาเชื้อ HPV เป็นการตรวจหา DNA ของเชื้อไวรัส HPV ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก โดยตรวจหาเชื้อได้มากถึง 14 สายพันธุ์ และตรวจหาความเสี่ยงของรอยโรคได้ วิธีนี้สามารถตรวจได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความแม่นยำสูง

2. การตรวจแป๊ปสเมียร์ (Pap Smear)

การตรวจแป๊ปสเมียร์ เป็นตรวจคัดกรองด้วยการเก็บเซลล์จากปากมดลูก เพื่อตรวจหาความผิดปกติ หากพบความผิดปกติในเซลล์ปากมดลูกตั้งแต่เนิ่นๆ โอกาสในการรักษาให้หายขาดจะมีมากขึ้น วิธีนี้สามารถตรวจพบรอยโรคได้ก่อนที่เซลล์จะกลายเป็นมะเร็ง

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

ปัจจุบันมีวัคซีนมะเร็งปากมดลูกที่สามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ความเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อฉีดในผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์หรือยังไม่เคยติดเชื้อ HPV วัคซีนนี้มีความปลอดภัยสูง และช่วยป้องกันการติดเชื้อมะเร็งปากมดลูกได้เป็นอย่างดี

แนะนำให้ฉีดวัคซีนในเด็กและผู้หญิง ที่มีช่วงอายุ 9 – 26 ปี สำหรับจำนวนเข็มที่ใช้ในการฉีดขึ้นอยู่กับอายุและประเภทของวัคซีน โดยทั่วไปจะฉีด 2 – 3 เข็ม ผลข้างเคียงที่อาจพบได้คือปวดบริเวณที่ฉีด ถึงแม้ว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ แต่ก็ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคเป็นประจำด้วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคร้ายที่สามารถป้องกันได้หากเรารู้เท่าทันและดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม การฉีดวัคซีน HPV ตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ และมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้อย่างมาก อย่าปล่อยให้ภัยเงียบนี้ทำร้ายสุขภาพหรือคนที่เรารัก หากใครยังไม่เคยเข้ารับการตรวจคัดกรองหรือฉีดวัคซีน อย่ารอช้า ควรหาเวลาไปฉีดวัคซีน เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพของเราเอง

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top