แสงแดดในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนนั้นรุนแรงเป็นพิเศษ หากผิวสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน อาจเกิดปัญหาผิวไหม้ แสบ แดง หรือแม้แต่ลอกเป็นขุย ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความไม่สบายตัว แต่ยังทำให้ผิวดูหมองคล้ำและเสื่อมสภาพในระยะยาวได้ การทำความเข้าใจว่าผิวเสียจากแดดคืออะไร และควรดูแลฟื้นฟูอย่างไรให้ผิวกลับมาเนียนใสอย่างปลอดภัย จึงเป็นสิ่งสำคัญ
ทำไมแดดถึงทำร้ายผิวได้มากกว่าที่คิด
ภายในแสงแดดประกอบด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสี UV ซึ่งแบ่งออกเป็นสองชนิดหลัก ๆ คือ UVA และ UVB
- รังสี UVA สามารถแทรกซึมลึกถึงชั้นหนังแท้ ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อม ส่งผลให้ผิวเหี่ยวย่นและแก่ก่อนวัย
- รังสี UVB มีพลังงานสูงมากพอที่จะทำให้ผิวไหม้ แดง แสบ และเป็นตัวการหลักของมะเร็งผิวหนัง
แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่รังสีเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายต่อเซลล์ผิวได้อย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00–16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่รังสี UV เข้มข้นที่สุด

อาการของผิวไหม้แดดที่ควรสังเกต
อาการผิวไหม้จากแดด (Sunburn) สามารถเกิดขึ้นได้ทันทีหลังตากแดดประมาณ 2–6 ชั่วโมง โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่
- ผิวแดง แสบร้อน และรู้สึกตึงผิว
- บางรายอาจมีอาการบวม หรือมีตุ่มน้ำใสคล้ายพอง
- ผิวแห้ง ลอกเป็นขุยในวันถัดไป
- มีอาการคันหรือระคายเคือง
ในกรณีที่รุนแรง อาจมีไข้ หนาวสั่น หรือคลื่นไส้ร่วมด้วย ซึ่งควรรีบพบแพทย์ทันที
วิธีดูแลผิวไหม้แดดอย่างถูกต้อง
เมื่อผิวได้รับความเสียหายจากแสงแดด การดูแลอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดอาการอักเสบและฟื้นฟูผิวได้เร็วขึ้น ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงแสงแดดทันที
หยุดกิจกรรมกลางแจ้งและหลบแดดทันที เพื่อไม่ให้รังสี UV ทำร้ายผิวเพิ่มเติม
2. ประคบเย็นอย่างนุ่มนวล
ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็น หรือแช่ผ้าในตู้เย็นแล้วนำมาวางบนบริเวณที่แสบ ประคบวันละหลายครั้งเพื่อลดการอักเสบ ไม่ควรใช้ก้อนน้ำแข็งวางโดยตรง เพราะอาจทำให้ผิวบอบบางเสียหายยิ่งขึ้น
3. บำรุงผิวด้วยสกินแคร์และมอยส์เจอไรเซอร์
เลือกใช้โลชั่นหรือเจลบำรุงผิวที่มีสารลดการอักเสบ เช่น ว่านหางจระเข้ หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำหอม เพื่อป้องกันการระคายเคือง และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูผิวที่ไหม้แดดให้กลับมาเนียนใสได้รวดเร็วขึ้น
- Allantoin ลดการระคายเคืองและเร่งการสมานผิว
- Panthenol (Vitamin B5) ให้ความชุ่มชื้นลึกและลดการอักเสบ
- Niacinamide (Vitamin B3) ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว เสริมความแข็งแรง
- Ceramide และ Hyaluronic Acid ช่วยเติมน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้นยาวนาน
ควรทาเป็นประจำวันละ 2–3 ครั้งหลังล้างหน้า หรือหลังอาบน้ำขณะผิวยังหมาดเล็กน้อย
4. ดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ
ร่างกายจะสูญเสียน้ำมากขึ้นเมื่อผิวอักเสบ การดื่มน้ำจึงเป็นการช่วยเติมความชุ่มชื้นจากภายใน
5. หลีกเลี่ยงการขัดผิวหรือดึงผิวที่ลอก
แม้ว่าผิวจะเริ่มลอกเป็นแผ่น ไม่ควรดึงหรือขัดผิวออก เพราะอาจทำให้เกิดแผลหรือจุดด่างดำถาวร

ผิวที่เสียจากแดดจะฟื้นตัวภายในกี่วัน?
โดยทั่วไปอาการผิวไหม้แดดจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 5–7 วัน แต่หากผิวไหม้รุนแรง หรือมีตุ่มน้ำพอง อาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลและลักษณะผิวของแต่ละบุคคล
หากอาการไม่ดีขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ หรือมีอาการแทรกรุนแรง ควรเข้าพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการประเมินและรักษาอย่างเหมาะสม
เคล็ดลับป้องกันผิวเสียจากแดดไม่ให้เป็นอีก
การป้องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับปัญหาผิวที่เกี่ยวข้องกับแสงแดด โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีสภาพอากาศร้อนและแดดจัดเกือบตลอดปี
- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ
- เลือกสูตรกันน้ำหากทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่ายน้ำ
- ทาครีมซ้ำทุก 2 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง
- ใส่เสื้อผ้าแขนยาว หมวกปีกกว้าง และแว่นกันแดด
- หลีกเลี่ยงแดดจัดช่วงสายถึงบ่าย
การดูแลผิวหลังไหม้แดดไม่ควรมองว่าเป็นเรื่องเล็ก เพราะผิวที่ผ่านการถูกทำร้ายจากแสงแดดซ้ำ ๆ อาจสูญเสียความยืดหยุ่น กลายเป็นผิวหมองคล้ำ หรือเสี่ยงต่อปัญหารุนแรงในอนาคต เช่น จุดด่างดำ รอยแดงถาวร หรือมะเร็งผิวหนัง หากสามารถจัดการตั้งแต่เนิ่น ๆ พร้อมเสริมการดูแลแบบองค์รวมทั้งภายในและภายนอก จะช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรงและดูสุขภาพดีในระยะยาว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือเข้ารับบริการดูแลผิวโดยแพทย์ ได้ที่โรงพยาบาลศรีสุโข
โรงพยาบาลศรีสุโข พิจิตรที่อยู่: 22/29 ถนนสระหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร 66000
เบอร์โทรศัพท์: 056 612 377
สายด่วน: 063 339 3654
LINE Official: @Srisukho
เว็บไซต์: www.srisukho.co.th