ไอ เจ็บคอ… อาจไม่ใช่เรื่องธรรมดา! 4 สัญญาณอันตรายจาก “โรคปอดอักเสบ” ที่กลุ่มเสี่ยงไม่ควรมองข้าม

อาการไอ มีเสมหะ หรือเจ็บคอ หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงไข้หวัดทั่วไป แต่รู้ไหมว่าอาการเหล่านี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ “โรคปอดอักเสบ” อาจลุกลามรุนแรงได้ โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ การรู้จักสัญญาณเตือนตั้งแต่ระยะแรก เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากวินิจฉัยช้า อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและอวัยวะอื่น ๆ ตามมา

รู้จักโรคปอดอักเสบให้มากขึ้น

โรคปอดอักเสบ คือ ภาวะที่เนื้อเยื่อในปอดติดเชื้อจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา ทำให้เกิดการอักเสบ ส่งผลให้ถุงลมในปอดมีน้ำหรือหนองขัง ทำให้หายใจลำบาก บางรายมีอาการไข้สูง หนาวสั่น อ่อนเพลีย กลุ่มที่พบได้บ่อย คือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หอบหืด หรือโรคเรื้อรังทางปอด

4 สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

  1. ไอเรื้อรัง เสมหะเปลี่ยนสี

หากมีอาการไอเกิน 3 วันขึ้นไป โดยเฉพาะไอมีเสมหะสีเหลือง เขียว หรือปนเลือด อาจไม่ใช่แค่หวัด แต่เป็นสัญญาณว่ามีการติดเชื้อในปอด

  1. หายใจลำบาก หอบเหนื่อย

เมื่อปอดมีการอักเสบ ถุงลมทำงานลดลง ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลง บางรายอาจมีอาการหายใจหอบเหนื่อย หายใจเร็ว หรือเจ็บหน้าอกขณะหายใจลึก ๆ

  1. ไข้สูง หนาวสั่น

ไข้สูงแบบฉับพลัน โดยเฉพาะในเวลากลางคืน หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย จะพบในผู้ที่ติดเชื้อแบคทีเรียในปอด

  1. อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดกล้ามเนื้อ

แม้จะไม่มีไข้สูง แต่อาการอ่อนเพลียมากผิดปกติ ปวดเมื่อยเนื้อตัว และเบื่ออาหาร ก็เป็นสัญญาณของร่างกายที่เริ่มตอบสนองต่อการติดเชื้อ

ใครบ้างที่เสี่ยงต่อปอดอักเสบ

  • เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
  • ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด หรือโรคหัวใจ
  • ผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ผู้ที่เคยติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อย

การวินิจฉัยและแนวทางการดูแล

หากสงสัยว่าเป็นปอดอักเสบ ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด แพทย์อาจตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด หรือตรวจเสมหะ เพื่อยืนยันการติดเชื้อ แนวทางการดูแลมีตั้งแต่การให้ยาปฏิชีวนะสำหรับผู้ที่ติดเชื้อแบคทีเรีย การพักผ่อน ดื่มน้ำมาก ๆ ไปจนถึงการให้ออกซิเจนหรือพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หากมีอาการรุนแรง

ป้องกันโรคปอดอักเสบได้อย่างไร

  • ฉีดวัคซีน เช่น วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และวัคซีน IPD (Pneumococcal Vaccine)
  • ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล
  • หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด โดยเฉพาะในช่วงที่มีโรคระบาด
  • นอนพักให้เพียงพอ ไม่อดนอน
  • รับประทานอาหารให้ครบหมู่ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • งดสูบบุหรี่และลดแอลกอฮอล์

โรคปอดอักเสบ อาจเริ่มจากอาการเล็กน้อยที่หลายคนมองข้าม แต่หากไม่ดูแลอย่างเหมาะสม อาจลุกลามจนเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มเสี่ยงอย่างผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้มีโรคประจำตัว การสังเกตอาการเบื้องต้นและไม่ปล่อยให้เรื้อรังคือสิ่งสำคัญ และหากมีข้อสงสัยควรเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์โดยตรง

หากคุณหรือคนในครอบครัวมีอาการไอเรื้อรัง หรือสงสัยว่าติดเชื้อในปอด
สามารถเข้ารับคำปรึกษาและตรวจวินิจฉัยกับทีมแพทย์ได้ที่

โรงพยาบาลศรีสุโข พิจิตร
ที่อยู่: 22/29 ถนนสระหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร 66000
เบอร์โทรศัพท์: 056 612 377
สายด่วน: 063 339 3654
LINE Official: @Srisukho
เว็บไซต์: https://srisukho.co.th

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *


Scroll to Top