เมื่อลูกมีอาการไอ มีน้ำมูก หรือดูตัวร้อน แต่ยังคงเล่นได้ ยิ้มเก่ง กินข้าวได้ ไม่งอแง หลายครอบครัวอาจลังเลว่าจะพาไปหาหมอเลยดีไหม หรือแค่เฝ้าระวังที่บ้านก็พอ เพราะดูเหมือนลูกยังมีพลังดีอยู่เหมือนเดิม บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจว่าควรสังเกตอาการอย่างไร และตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
เด็กไม่สบายแต่ยังเล่นได้ ถือว่าปลอดภัยไหม
เด็กบางคนแม้จะเริ่มมีไข้หรือน้ำมูก แต่ยังเล่นได้ อารมณ์ดี และนอนหลับปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าอาการยังไม่รุนแรง และร่างกายกำลังรับมือกับการติดเชื้อได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งพบได้บ่อยในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของอากาศ หรือเป็นไข้หวัดธรรมดา
อย่างไรก็ตาม แม้ลูกยังดูสดใส แต่ก็ไม่ควรละเลยอาการเบื้องต้น เพราะเด็กเล็กมีภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ อาการอาจเปลี่ยนแปลงเร็ว โดยเฉพาะในช่วงอายุไม่ถึง 5 ปี

สังเกตยังไงว่าอาการยังไม่รุนแรง
หากลูกมีอาการเล็กน้อย แต่ยังมีพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกับปกติ เช่น ยังคงเล่น ยิ้ม ตอบสนองดี กินนม หรือกินอาหารได้ตามปกติ ไม่มีเสียงหายใจแปลกๆ หรือหอบเหนื่อย อุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 38.5 องศา และตอบสนองต่อยาลดไข้ นอนหลับได้ตามปกติ ไม่กระสับกระส่าย กรณีแบบนี้ อาจสังเกตอาการที่บ้านต่อไปได้อีก 1–2 วัน โดยระหว่างนั้นควรดูแลให้ลูกพักผ่อน และดื่มน้ำมากๆ
อาการแบบไหนที่ควรรีบพาไปพบแพทย์
แม้ว่าลูกจะยังดูเล่นได้ แต่ถ้ามีสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที
- ไข้สูงติดต่อกันเกิน 2 วัน หรือไข้ขึ้นมากกว่า 39 องศา
- ซึมลง ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม แม้จะไม่มีไข้
- หายใจเร็ว หรือหายใจแรงจนเห็นหน้าอกบุ๋ม
- หายใจมีเสียงครืดคราด หายใจหอบ
- ไม่กินนมหรือกินอาหารอะไรเลย แม้จะหิวมากๆ
- มีอาการอาเจียนหรือท้องเสียหลายครั้ง
- ผื่นขึ้นทั่วตัว หรือมีจุดแดงผิดปกติ
- ปัสสาวะลดลง หรือไม่ปัสสาวะเลยนานกว่า 8 ชั่วโมง

วิธีดูแลลูกเมื่อเริ่มมีอาการไม่สบาย
- วัดไข้เป็นระยะ ใช้ยาลดไข้ตามคำแนะนำหากจำเป็น
- ให้ลูกพักผ่อนเต็มที่ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้พลังงาน
- ดื่มน้ำหรือนมมากขึ้น เพื่อชดเชยการเสียของเหลว
- เช็ดตัวด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง หากมีไข้
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะเองโดยไม่จำเป็น
- หากมีอาการไอหรือคัดจมูก ให้เปิดน้ำอุ่นในห้องน้ำให้อากาศชื้น หรือใช้น้ำเกลือล้างจมูก
แม้ว่าลูกจะยังดูเล่นได้ ร่าเริง กินอาหารดี แต่ถ้ามีอาการไม่สบายควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะบางอาการอาจแสดงช้าหรือเปลี่ยนเร็วโดยไม่ทันสังเกต หากมีข้อสงสัยหรือสัญญาณที่ดูผิดปกติ ควรเลือกพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินให้แน่ใจ ความปลอดภัยของลูกเป็นเรื่องสำคัญ และการดูแลทันเวลาจะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนได้ในระยะยาว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายปรึกษาได้ที่
- โทรศัพท์: 056 612 377
- สายด่วน: 063 339 3654
- LINE Official: เพิ่มเพื่อน @Srisukho
- ที่ตั้งโรงพยาบาล: 22/29 ถ.สระหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร 66000